สรุปหนังสือ 7 strategies for wealth and happiness

สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่รายการ กับซัน ธนวิชญ์ รายการที่จะมาพาท่านไปพบกับข้อคิด ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตและการทํางานของท่านในแต่ละวัน

ในตอนนี้ เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการสร้างความมั่งคั่งและความสุขในชีวิต โดยอาศัยคําแนะนําจากมหาเศรษฐีผู้ทําตัวขึ้นมาด้วยตัวเอง

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ชื่อ จิม โรห์น เขาเคยรู้สึกท้อแท้กับปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกับหลายๆ คน ในวัยหนุ่ม เขาเคยลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วมาทํางานเป็นผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล แม้ว่าเขาจะทํางานหนักมา 6 ปี แต่ก็ยังติดอยู่ในตําแหน่งเดิมโดยมีเงินเดือนเท่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับเอิร์ล โชฟฟ์ ซึ่งเป็นครูผู้สอนของเขา เอิร์ลได้สอนกลยุทธ์ต่างๆ ให้กับเขาในการสร้างความมั่งคั่งผ่านวินัยและความพยายามอย่างเข้มข้น โดยการนํากลยุทธ์เหล่านั้นมาใช้ ทําให้เขากลายเป็นเศรษฐีเมื่ออายุ 31 ปี

แม้ว่าความมั่งคั่งและความสําเร็จอาจมีความหมายแตกต่างกันไปสําหรับแต่ละคน แต่การทําตามกลยุทธ์ 7 ประการในหนังสือเล่มนี้ สามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการกลายเป็นเศรษฐี หรือการปลดหนี้

ลองมาดูกันว่ากลยุทธ์เหล่านั้นคืออะไรบ้าง

ประการแรก การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณมีวินัยและสร้างโครงสร้างในชีวิต ลองจดบันทึกเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของตัวเองในอนาคต 1 ถึง 10 ปี จากนั้นจัดหมวดหมู่เป้าหมายเหล่านั้นตามช่วงเวลาที่คาดว่าจะทําได้สําเร็จ เช่น 1 ปี 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี การมีเป้าหมายชัดเจนจะช่วยให้คุณมุ่งมั่นและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องการจะบรรลุ

ประการที่สอง การเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นกุญแจสําคัญสู่ความมั่งคั่งและการพัฒนาตัวเอง ไม่จําเป็นต้องเรียนที่มหาวิทยาลัย เพียงแค่สังเกตและสะท้อนการเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตประจําวัน อ่านหนังสือ ฟังการบรรยาย หรือแม้แต่การเชิญคนรวยมารับประทานอาหารด้วย เพื่อซักถามเคล็ดลับความสําเร็จ ล้วนเป็นวิธีเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะได้เช่นกัน

ประการที่สาม กําจัดอุปสรรคต่อการพัฒนาตัวเอง และเพิ่มมูลค่าของตัวเอง อุปสรรคที่สําคัญ เช่น การเลื่อนงาน การตําหนิผู้อื่น และการหาเหตุผลขึ้นมาอ้าง ล้วนเป็นสิ่งที่ขัดขวางความก้าวหน้าของเรา นอกจากนี้ ยังควรเพิ่มมูลค่าของตัวเองในสายตาของบริษัท ลูกค้า หรือคู่สมรส โดยการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพิ่มผลิตภาพ และทํางานให้ดีขึ้น

ประการที่สี่ ปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อการเสียภาษีและนํากฎ 70/30 มาใช้ ลองมองการเสียภาษีในแง่บวกว่าเป็นการสนับสนุนรัฐบาลให้พัฒนาสังคม คุณจะรู้สึกดีขึ้นกับการเสียภาษี นอกจากนี้ ยังควรนํากฎ 70/30 มาใช้กับรายได้สุทธิ โดยแบ่งเป็น 70% ใช้จ่ายตามความจําเป็นและความต้องการ ส่วน 30% แบ่งเป็น บริจาค 10% ออม 10% และลงทุน 10% เพื่อสร้างความมั่งคั่ง ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้คุณมีความสุขกับการใช้จ่ายเงินมากขึ้น

ประการที่ห้า จัดสรรเวลาอย่างชาญฉลาดโดยวางแผนอย่างรอบคอบ จดบันทึกการนัดหมายและกําหนดการล่วงหน้าในปฏิทิน เพื่อให้แน่ใจว่าเวลาของคุณสมดุลและใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่หก ใช้เวลากับคนที่เหมาะสม ลองพิจารณาความสัมพันธ์ต่างๆ ในชีวิต แล้วถามตัวเองว่า บุคคลเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อคุณอย่างไร หากพบว่าบางคนมีอิทธิพลในทางลบ ควรจํากัดการคบหาสมาคมกับพวกเขา

ประการสุดท้าย ฝึกความพึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ โดยการมองโลกในแง่ดีและเลือกให้มากกว่าเอาเพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น ให้ทิปคนขัดรองเท้า 2 เหรียญแทนที่จะให้เพียง 1 เหรียญ การคิดแบบมองโลกในแง่ดีและเอื้ออาทรจะช่วยให้รู้สึกร่ํารวยและมีความสุขได้โดยไม่จําเป็นต้องร่ํารวยจริง

สรุปได้ว่า ความมั่งคั่งและความสุขไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่ต้องอาศัยวินัยและการวางแผนอย่างรอบคอบ หากคุณพยายามทําตามกลยุทธ์ทั้ง 7 ประการนี้ คุณจะได้รับผลตอบแทนตลอดชีวิต ขอให้ประสบความสําเร็จด้วยความมุ่งมั่นของตนเองนะครับ

ขอบคุณที่รับฟังรายการ กับซัน ธนวิชญ์ หวังว่าคงได้ข้อคิดดีๆ ไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นนะครับ สวัสดีครับ

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *