หากจะทำโฆษณาตัวเลือกต้น ๆ ในการทำโฆษณาของทุกคนก็น่าจะหนีไม่พ้น Facebook แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ที่เรายิ่งมีช่องทางในการโฆษณามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นข้อได้เปรียบกับธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น
จึงมีหลายคนหันมาลองทำโฆษณาช่องทางอื่นกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Google , Line, Tiktok แต่ถ้าเทียบจำนวนผู้ใช้งานกันแล้ว ต้องยอมรับว่า Google และ Facebook ยังครองตลาดส่วนมาก
ครั้งนี้ผมจึงมาชี้ให้ดูว่าการทำโฆษณาบน Google กับ Facebook ต่างกันอย่างไร ไว้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ยังไม่เคยลงโฆษณาต่างแพลตฟอร์ม
google ads
google นั้นจะเน้นตั้งรับซะส่วนใหญ่ โดยมากแล้ว เราก็จะไปค้นหาสิ่งที่เราต้องการบนกูเกิ้ลกันทั้งนั้น คงไม่ค่อยมีใครพิมพ์ค้นหาร้านปะยางบนเฟสบุ๊ค เน้นไปในการหาข้อมูล อาจจะใช้ในการตัดสินใจต่าง ๆ จึงมีโอกาสในการปิดการขายได้มากกว่า
สรุปข้อดีของกูเกิ้ลดังนี้
- แสดงผลเมื่อทำการค้นหาด้วย คีย์เวิร์ด
- คิดค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อเกิดการคลิก
- เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องมีการหาข้อมูล
- เน้นตั้งรับมากกว่า
- มีโอกาสปิดการขายได้มากกว่า เพราะคนค้นหามีความสนใจในระดับหนึ่งแล้ว
Facebook ads
facebook เน้นการแสดงบนหน้า feed ทำให้เกิดการเข้าถึงได้มากกว่า แม้เราไม่ค้นหา แต่โฆษราก็จะมาหาเราด้วย ความสนใจ มุ่งเน้นเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการไปยังคนหมู่มาก
สรุปข้อดีของเฟสบุ๊คดังนี้
- แสดงบนหน้า feed ตามการกำหนดค่าตอนลงโฆษณา
- การคิดเงินต่อการมองเห็น แม้ไม่เกิดคลิก ก็คิดเงินแล้ว
- เหมาะกับสินค้าที่ไม่ต้องค้นหาข้อมูลเยอะ
- มีโอกาสถึงคนได้คราวละมาก ๆ
- จะเรียกว่าเป็นเชิงรุกก็ได้
คงพอจะเห็นนะครับว่าสินค้าบริการของเรา ถ้าจะเอาไปลงโฆษณาแล้ว ไปลงแพลตฟอร์มไหนจะดีกว่ากัน
เดี๋ยวนี้ หลายคนก็ทำโฆษณาหลายแพลตฟอร์ม แล้วทำการดึงข้อมูลมาใช้ร่วมกัน ก็สามารถช่วยอุดช่องโหว่ กระจายการมองเห็น และทำให้เราไม่เสียเงินไปในช่องทางหนึ่งโดยเปล่าประโยชน์
หากบทความนี้มีประโยชน์ ฝากแชร์ให้ เพื่อน ๆ ของคุณ อ่านกันด้วยนะครับ