รู้มั้ย? ทุกวันนี้ใครๆ ก็พูดถึงการเดินให้ได้ 10,000 ก้าวต่อวัน อุปกรณ์นับก้าวสมัยใหม่ก็มีเป้าหมายนี้ติดมาเป็นค่าเริ่มต้น แต่เคยสงสัยไหมว่า… ตัวเลขนี้มาจากไหน? และมันจำเป็นจริงๆ หรือ?
ความจริงที่น่าตกใจคือ… ตัวเลข 10,000 ไม่ได้มาจากการวิจัยทางการแพทย์! มันเกิดจากแคมเปญการตลาดของบริษัทญี่ปุ่นที่ขายเครื่องนับก้าวเมื่อปี 1965 บริษัทเลือกตัวเลขนี้เพราะฟังดูกลมกล่อม และท้าทายแต่ไม่ยากเกินไป
เรื่องน่าทึ่งคือ แคมเปญการตลาดนี้ประสบความสำเร็จมากๆ จนกลายเป็นมาตรฐานไปทั่วโลก! คนส่วนใหญ่เดินวันละ 5,000-7,500 ก้าวอยู่แล้วในชีวิตปกติ (แต่ปัจจุบันน้อยลงเพราะเทคโนโลยี) การเพิ่มอีก 30 นาทีก็น่าจะถึง 10,000 ก้าวพอดี
เดินแล้วดียังไง? สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายคุณ
เดินวันละ 10,000 ก้าวเป็นเรื่องดีแน่นอน! มันให้ประโยชน์มากมาย:
ลดความเสี่ยงโรคร้าย เดินสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน และอ้วนได้อย่างชัดเจน ลองนึกภาพว่าทุกๆ ก้าวคือการเติมพลังชีวิตและลดยาในอนาคต!
เผาผลาญมากขึ้น เดิน 10,000 ก้าวเผาผลาญได้ถึง 400-500 แคลอรี่ เท่ากับการเดิน 6-8 กิโลเมตร เท่ากับไอศกรีม 1 ถ้วยใหญ่หรือขนมปัง 4 แผ่น!
สมองแจ่มใส อารมณ์ดี การเดินกระตุ้นสมองปล่อย “ฮอร์โมนแห่งความสุข” ทำให้อารมณ์ดี คลายเครียด และนอนหลับสบาย คนที่เดินเป็นประจำมักบอกว่ารู้สึกมีพลัง มีสมาธิ และมีความสุขมากกว่า
กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง เดินช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ ทำให้ทรงตัวดี เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว แก่ช้าลง!
เดินน้อยลงได้ไหม? ความจริงที่ทำให้คุณโล่งใจ!
มีข่าวดี! งานวิจัยปี 2023 ที่ศึกษาคนกว่า 226,889 คน บอกว่า:
การเดินเพียง 4,000 ก้าวต่อวัน ก็เริ่มให้ผลดีต่อสุขภาพแล้ว! ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากทุกโรคได้ชัดเจน แค่เดิน 2,337 ก้าวต่อวัน ก็ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ คนที่เดิน 5,500 ก้าวต่อวัน มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตลดลงถึง 48%!
และที่น่าสนใจคือ ยิ่งเดินมาก ยิ่งได้ประโยชน์เพิ่ม! ทุกๆ 1,000 ก้าวที่เพิ่มขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากทุกโรคได้อีก 15% งานวิจัยยังพบว่าไม่มี “เพดาน” ของประโยชน์ แม้เดินไกล 20,000 ก้าวก็ยังได้ผลดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อายุมีส่วนสำคัญด้วย คนหนุ่มสาวได้ประโยชน์สูงสุดที่ 7,000-13,000 ก้าว ขณะที่คนอายุ 60+ ปี ได้ประโยชน์ที่ 6,000-10,000 ก้าว
เดินเร็ว 30 นาที ดีกว่าเดินช้า 10,000 ก้าว จริงหรือ?
นี่คือความจริงที่ไม่มีใครบอก! การศึกษาโดยศาสตราจารย์โคปแลนด์พบว่า “เดินอย่างไร” สำคัญพอๆ กับ “เดินมากแค่ไหน”
เมื่อเปรียบเทียบคนสองกลุ่ม กลุ่มที่เดินให้ได้ 10,000 ก้าวต่อวัน VS กลุ่มที่เดินเร็วแค่ 10 นาที วันละ 3 ครั้ง ผลลัพธ์น่าทึ่ง! กลุ่มที่เดินเร็วได้ออกกำลังหัวใจและปอดมากกว่าถึง 30%!
คิดง่ายๆ แบบนี้ คุณเดินช้าๆ กว่าจะครบหมื่นก้าวใช้เวลานาน แต่หัวใจเต้นไม่แรง = ประโยชน์จำกัด แต่ถ้าเดินเร็วจนหัวใจเต้นแรง หายใจเร็ว แม้เพียง 30 นาที = ประโยชน์มากกว่า!
ตัวอย่างเช่น เดินเร็ววันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมและมดลูกลง 54% โรคลำไส้ใหญ่ลง 20% เบาหวานลง 60% และโรคหัวใจลง 31%
เริ่มเดินวันนี้! วิธีง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้
อย่ากลัวตัวเลข 10,000! เริ่มจากเพิ่มการเดินทีละนิด:
1️⃣ เริ่มจากที่คุณทำได้ ถ้าปกติเดิน 3,000 ก้าว พยายามเพิ่มเป็น 4,000-5,000 ก้าวก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละพัน การเพิ่มทีละน้อยแต่ทำสม่ำเสมอ ดีกว่าตั้งเป้าสูงแต่ทำไม่ได้
2️⃣ แทรกการเดินเข้าไปในชีวิตประจำวัน ลองจอดรถไกลๆ ห้างสักหน่อย เดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์ ลงรถเมล์ก่อนป้าย 1 ป้าย หรือเดินคุยโทรศัพท์แทนการนั่ง
3️⃣ เดินเร็วสั้นๆ ดีกว่าเดินช้ายาวๆ ถ้ามีเวลาน้อย ลองเดินเร็วๆ 10 นาที วันละ 3 ครั้ง จะได้ประโยชน์มากกว่าเดินช้าๆ 30 นาที
4️⃣ หาเพื่อนเดินด้วยกัน การมีเพื่อนหรือกลุ่มเดินด้วยกัน ทำให้สนุกและมีแรงจูงใจมากขึ้น คนที่มีเพื่อนเดินด้วยมักทำได้ต่อเนื่องกว่า
ที่สำคัญ… ไม่ว่าจะเดินได้กี่ก้าว ก็ยังดีกว่าไม่เดินเลย! แค่ลุกจากเก้าอี้บ่อยๆ ก็ช่วยสุขภาพได้แล้ว
ความจริงคือไม่มีเวทมนตร์ในตัวเลข 10,000 ก้าว แต่มีเวทมนตร์ในการเคลื่อนไหวร่างกายทุกวัน ทุกก้าวที่เดินคือก้าวที่ดีต่อสุขภาพ เริ่มวันนี้ แม้จะเพียงแค่ก้าวเล็กๆ และดูความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น!
ลองเริ่มตั้งแต่วันนี้ แล้วมาแชร์ความรู้สึกกัน! คุณเดินวันละกี่ก้าว? และจะเริ่มเพิ่มอีกกี่ก้าว? เล่าให้ฟังในคอมเมนต์เลย!
